ไวยกรณ์เบื้องต้น เขียนเมื่อ 2009.06.30 โดย

Escaping from HTML

เมื่อ PHP engine ทำการแปลเอกสาร จะทำการตรวจเอกสารหา tag เปิดและ tag ปิดเพื่อเริ่มและหยุดทำการแปลด้วยภาษา PHP โดยเราจะเห็นการใช้งาน PHP ร่วมในโครงสร้างภาษา HTML ด้วย
<p>ส่วนนี้จะไม่ถูกแปลด้วย</p>
<? echo 'While this is going to be parsed.'; ?>
<p>ส่วนนี้จะไม่ถูกแปลด้วย</p>

และเราอาจจะเห็นการใช้งานที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น
<?
if ($expression) {
?>
<b>ค่าเป็น true</b>
<?
} else {
?>
<b>ค่าเป็น false.</b>
<?
}
?>

ซึ่งก็สามารถใช้งานได้เช่นเดียวกัน

การใช้งานแบนี้จะทำให้ การทำงานของตัวแปรภาษามีประสิทธิภาพมากกว่าการนำเอาข้อความเหล่านั้น แสดงผลด้วยฟังก์ชั่น echo() หรือ print() เนื่องจากตัวแปลภาษาจะไม่ทำการแปลในส่วนที่อยู่นอก tag เปิดและ tag ปิด

ในภาษา PHP ยังมี tag ที่ใช้ในการระบุขอบเขตของการประมวลผลอยู่ 4 แบบ
<?php
//แบบเต็ม
echo 'if you want to serve XHTML or XML documents, do like this';
?>

<script language="php">
//แบบ script tag
echo 'some editors (like FrontPage) don\'t like processing instructions';
</script>

<?
//แบบย่อ
echo 'this is the simplest, an SGML processing instruction';
?>

<%
//แบบ ASP
echo 'You may optionally use ASP-style tags';
%>

โดยทั้ง 3 แบบแรกจะสามารถใช้งานได้เลย แต่แบบ ASP จะต้องมีการตั้งค่าในไฟล์ php.ini ในส่วนของ asp_tags ถึงจะสามารถใช้งานได้

Instruction separation ในภาษา PHP จะเหมือนกับภาษา C ที่จะต้องมี semi-colon ในการปิดคำสั่งทุกครั้งเมื่อมีการจบประโยคคำสั่ง

Comments ในภาษา PHP รองรับการเขียนคำอธิบายในรูปแบบของภาษา C, C++ และ Shell เช่น
<?
echo 'This is a test'; // การเขียนคำอธิบายบรรทัดเดียวแบบ C++
/* นี่เป็นการเขียนคำอธิบายแบบหลายบรรทัด
นี่เป็นอีกบรรทัดของการเขียนคำอธิบาย */
echo 'One Final Test'; # การเขียนคำอธิบายแบบ Shell (Perl)
?>




คำเตือนคำเตือน เนื้อหาต่างๆ ในบทความ รวมถึงรูปภาพทั้งหมดในบทความนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละคน ซึ่งแต่ละคนได้ทำการลงทะเบียน และเขียนบทความลงใน Modoeye Articles นี้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ บทความเหล่านี้เป้าหมายเพื่อการศึกษา และความบันเทิงเท่านั้น การนำส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความไปใช้งาน ควรทำการอ้างอิงถึงผู้เขียนและแหล่งที่มาด้วย