ความปลอดภัยบนอินเตอร์เน็ท สำหรับเว็บไซท์แล้ว SSL เป็นหนึ่งในวิธีที่นิยมมากที่สุดในการเพิ่มความปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลระหว่างโฮสต์และไคลเอ็นท์ ได้รับการเข้ารหัสไม่สามารถตรวจจับได้
และหนึ่งในระบบที่ต้องการความปลอดภัยอย่างมาก คือระบบการเงิน ธนาคารทางอินเตอร์เน็ทเป็นช่องทางที่มีผู้ใช้จำนวนมาก และมีผลกับข้อมูลสำคัญทางการเงิน การใช้ SSL สำหรับธนาคารอินเตอร์เน็ทจึงสำคัญมาก
ในที่นี้การทดลองใช้การวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมของ SSL Labs ที่สามารถวิเคราะห์การติดตั้ง, ความถูกต้อง, ชุดรหัส, เทคโนโลยี, และช่องโหว่ต่างๆ ได้ และทดลองกับเว็บไซท์สำหรับลูกค้าบุคคลเท่านั้น
ธนาคารกรุงเทพ (ibanking.bangkokbank.com) Symantec (Verisign) SGC EV SSL
ธนาคารทหารไทย (www.tmbdirect.com) Entrust EV SSL
ธนาคารไทยพาณิชย์ (www.scbeasy.com) Entrust EV SSL
ธนาคารธนชาต (retailib.thanachartbank.co.th) Entrust EV SSL
ธนาคารกสิกรไทย (online.kasikornbankgroup.com) Symantec (Verisign)EV SSL
ธนาคารยูโอบี (pib.uobthailand.com) Symantec (Verisign)EV SSL
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (www.krungsrionline.com) Symantec (Verisign) SGC EV SSL
ธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ (www.lhbankspeedy.com) Symantec (Verisign) SGC EV SSL
ธนาคารกรุงไทย (www.ktbnetbank.com) Symantec (Verisign) SGC EV SSL
ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย (www.cimbclicks.in.th) Symantec (Verisign) EV SSL
- ไม่มีธนาคารใดเลยได้คะแนนเกินเกรด B
- 3 ธนาคารได้เกรด F เนื่องจากมีช่องโหว่ POODLE
- 3 ธนาคารได้เกรด F เนื่องจากมีช่องโหว่ POODLE
- SSL ที่นิยมมากที่สุดคือของ Symantec (Verisign)
- ทุกธนาคารยังใช้ SHA1 ยกเว้นกสิกรเท่านั้นที่ใช้ SHA2 แล้ว
- ทุกธนาคารยังรองรับ RC4 ที่ไม่ควรใช้แล้ว แต่พอทำความเข้าใจได้ เพื่อให้รองรับระบบเก่าๆ
- ยังไม่มีธนาคารใดรองรับ Forward Secrecy
- BBL, SCB, TMB, KTB รองรับ Secure Client-Initiated Renegotiation ที่จะมีผลจาก Dos บน TLS ได้